การแสดงนาฏศิลป์ไทย
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. มีทักษะในการแสดงหลากหลายรูปแบบได้
2. ใช้ความคิดริเริ่มในการแสดงนาฏศิลป์เป็นคู่และหมู่ได้
3. วิเคราะห์แก่นของการแสดงนาฏศิลป์และการละครที่ต้องการสื่อความหมายใน การแสดงได้
4. เปรียบเทียบการนำการแสดงไปใช้ในโอกาสต่างๆ ได้
5. อภิปรายบทบาทของบุคคลสำคัญในวงการนาฏศิลป์และการละครของ ประเทศไทยในยุคสมัยต่างๆ
ได้
6. บรรยายวิวัฒนาการของนาฏศิลป์และการละครไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันได้
1. ระบำ รำ ฟ้อน 1.1 ระบำ หมายถึงการแสดงที่เคลื่อนไหวทุกส่วนของร่างกายอย่างมีระเบียบแบบแผนตั้งแต่สองคนขึ้นไปในการแสดงแต่ละชุดจะประกอบด้วยลีลาท่ารำ การแต่งกาย ดนตรีและเพลงที่ขับร้อง ซึ่งจะมีเนื้อร้อง หรือไม่มีก็ได้ ประเภทของระบำ แบ่งออกเป็น 2 ชนิด 1) ระบำมาตรฐาน
เป็นชุดระบำที่ปรมาจารย์ด้านนาฏศิลป์ไทยได้ประดิษฐ์ขึ้นเป็นแบบแผน
มีการแต่งกายแบบยืนเครื่องพระนาง เช่นเดียวกับการแต่งกายของละครหลวง
มีการถ่ายทอดและสืบสานเป็นรูปแบบมาจนถึงปัจจุบัน เช่น ระบำเทพบันเทิง ระบำกฤดาภินิหาร
ระบำพรหมมาสตร์ เป็นต้น ที่มาของภาพ
http://oknation.nationtv.tv/blog/assada999 | |||
![]() |
ระบำกฤดาภินิหารเป็นระบำมาตรฐานชุดหนึ่งที่พระ-นางแต่งกายยืนเครื่อง ที่มาของภาพhttps://www.saranukromthai.or.th/sub/book/book.php?book=13&chap=5&page=t13-5-infodetail03.html
|
![]() |
ระบำพรมมาสตร์เป็นระบำชุดหนึ่งที่อยู่ในการแสดงโขน ตอนศึกพรหมมาสตร์ ที่มาของภาพ https://sites.google.com/site/thaidanceroom/knowledge/raba-matrthan/raba-phr-hma-str |
2)
ระบำเบ็ดเตล็ด เป็นชุดระบำที่ประดิษฐ์ขึ้นใหม่ เพื่อให้เหมาะสมกับเหตุการณ์โอกาส
หรือเนื้อเรื่องโขนและละคร เช่น - ประดิษฐ์จากวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวนา
-
ประดิษฐ์ขึ้นจากระบำมาตรฐานโดยอาศัยรูปแบบการแสดง ลีลา ทำนองดนตรี
การแต่งกายมาปรับปรุงแต่ยังคงเป็นมาตรฐานไว้เช่น ระบำกินรีร่อน ระบำกริชหมู่
- ประดิษฐ์จากท่าทางเลียนแบบของสัตว์
- ระบำประดิษฐ์ขึ้นเพื่อใช้ในโอกาสพิเศษ
-
ระบำที่ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อประกอบในการแสดงโขน
- ระบำที่ประดิษฐ์ขึ้นจากภาพจำหลักที่ปรากฏอยู่บนโบราณสถาน
หรือโบรานวัตถุ เช่น ระบำโบราณคดี สุโขทัย ศรีวิชัย ลพบุรี เป็นต้น
![]() |
ระบำไก่
เป็นระบำที่ประดิษฐ์จากการเลียนแบบท่าทางของสัตว์ |
![]() |
ระบำโบราณคดี
ชุดลพบุรี จำลองท่ารำมาจากภาพแกะสลัก ที่ประกฎอยู่ในโบราณสถานสมัยลพบุรี |
![]() | |||||
รำกินรีร่อน ประดิษฐ์ขึ้นจากระบำมาตรฐานโดยอาศัยรูปแบบการแสดง
ลีลา ทำนองดนตรี การแต่งกายมาปรับปรุงแต่ยังคงเป็นมาตรฐานไว้ ที่มาของภาพ https://sites.google.com/site/nadsilpthiysiphakh/phakh-kl/ra-kinri-rx 1.2 รำ เป็นการเคลื่อนไหวร่างกายทุกส่วนอย่างมีระเบียบแบบแผน ได้มาตรฐานตามนาฏยศัพท์ ลักษณะการรำ · รำหน้าพาทย์ เป็นการรำให้เข้ากับจังหวะท่ารำไม่เกี่ยวกับการตีบท · รำบท หรือตีบท เป็นการใช้ท่ารำแทนคำพูด และอารมณ์เรียกว่า ภาษาท่ารำ หรือภาษานาฏศิลป์ การแสดงออกเป็นภาษาท่านาฏศิลป์อาจจำแนกออกได้ ดังนี้ 1) ท่ารำที่ใช้แทนคำพูด เช่น ฉัน เรา ท่าน เธอ เรียก ไป มา รับ ปฏิเสธ ที่นี้ ส่ง ฯลฯ ท่าฉัน มือซ้ายจีบเข้าหาหน้าอก มือขวาเท้าสะเอว หรือจีบส่งหลัง เอียงศีรษะขวา
ท่าท่าน
มือข้างใดข้างหนึ่งตั้งวงบน
จากนั้นให้สับสันมือลงระดับแง่ศีรษะ(ท่าไว้มือ) ศีรษะเอียงด้านมือที่เท้าสะเอว
หรือจีบส่งหลัง
ท่าเธอ
ใช้มือข้างใดข้างหนึ่งชี้โดยตั้งมือ นิ้วที่เหลือรวบกันไว้ที่ฝ่ามือส่วนมืออีกข้าง
ให้เท้าสะเอว
ท่าปฏิเสธ
มือข้างใดข้างหนึ่งตั้งวงกลางระดับหน้าอก อีกข้างเท้าสะเอว
จากนั้นสั่นปลายมือพร้อมส่ายหน้าเล็กน้อย
2) ท่ารำแสดงกิริยาอาการหรืออิริยาบท เช่น
ยืน เดิน นั่ง
นอน เกี้ยวพาราสี เล้าโลม กราบ ไหว้ แปลงกาย ฯลฯ |
ท่าเดิน (ท่าเดินมือเดียว) เริ่มด้วยก้าวเท้าซ้ายด้านหน้า เท้าขวาเปิดส้น มือซ้ายทำจีบหงายที่ชายพกมือขวาแบมือตั้งแขนตึง แล้วหยิบจีบคว่ำแล้วเคลื่อนมือมาปล่อยเป็นวงล่างเอียงขวา ต่อด้วยก้าวเท้าขวาด้านหน้า เท้าซ้ายเปิดส้น มือซ้ายจีบหงายเหมือนเดิม หยิบจีบคว่ำที่ชายพก แล้วเคลื่อนมือขวาไปข้างลำตัว ปล่อยจีบเป็นมือแบแขนตึง กดไหล่และเอียงศีรษะไปทางซ้าย ทำสลับกันทั้งซ้ายและขวา
![]() | |
|
ท่านั่ง
ตัวนาง นั่งพับเพียบไปทางขวา
เชิดปลายนิ้วเท้ามาด้านหน้าเท้าขวาซ้อนบนเท้าซ้าย มือซ้าย แบมือวางบนขาขวาด้านนอก
มือขวาแบมือวางถัดมาทางด้านใน งอแขนขวา เอียงขวา
![]() | |
|
![]() | |
|
3) ท่ารำแสดงอารมณ์ภายใน เช่น ดีใจ เสียใจ โกรธ รัก ร้องให้ ฯลฯ
![]() | |
|
![]() | |
|
ท่าสวยงาม
มือขวาท่าบัวชูฟัก มือซ้ายวงหน้าระดับปาก เอียงขวา
![]() |
|
![]() | ||
|
ท่าอวยพร/ เทิดทูล แบมือหงายตั้งมือขวาระดับอกหรือระดับปลายคางมือซ้ายแบหงายให้แขนตั้งฉาก ปลายนิ้วอยู่ระดับแง่ศีรษะกดปลายนิ้วลงศีรษะเอียงขวาหรือเอียงทางมือที่อยู่ระดับต่ำ
![]() |
ภาพจากการปฏิบัติท่ารำของนักเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย 2 |
ท่านก มือใดมือหนึ่งตั้งวงบน อีกมือหนึ่งตั้งวงกลาง หักข้อมือและปลายนิ้วลงเล็กน้อย
![]() |
ภาพจากการปฏิบัติท่ารำของนักเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย 2 |
ท่ากวาง
คือการเหยียดนิ้วชี้และนิ้วกลางของทั้ง 2
มือ ให้ตึง หักปลายนิ้วเข้าสู่ลำแขน ระดับการวางมือ ทั้ง2 ข้างอยู่เหลื่อมกัน ให้อยู่ระดับหน้าท้องข้างหนึ่ง และอยู่ระดับอกอีกข้างหนึ่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น